เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เข้าร่วมการประชุมนายกสภาและอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปนอ.มทร.) ครั้งที่ 3/2566 โดยมี พลเอก จรัล กุลละวณิชย์ ประธาน ทปนอ.มทร. รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด (อธิการบดี มทร.ธัญบุรี) ประธาน ทปอ.มทร. และคณะนายกสภาและอธิการบดี มทร. ทั้ง 9 แห่ง ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม Ball Room ศูนย์นวัตกรรมและความรู้ มทร.ธัญบุรี ชั้น 7 อาคารบางซื่อจังชั่น เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ศ.ดร.ศุภชัย กล่าวว่า น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. มีนโยบายที่มุ่งเน้นในด้านการพัฒนากำลังคนให้สามารถเรียนรู้จากการใช้ประสบการณ์จริง โดยกระทรวง อว. ได้มีการขับเคลื่อนไปแล้วในหลากหลายโครงการ เช่น สหกิจศึกษา U2T ยุวชนอาสา และ CWIE ให้บุคลากรสามารถเรียนรู้ร่วมกับการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งกระทรวง อว. ได้ออกเกณฑ์มาตรฐาน 2565 ให้อำนาจนายกสภามหาวิทยาลัยในการพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยได้ นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำการให้ความสำคัญในเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ผลิตกำลังคนด้วยการ Upskill/Reskill ในสาขาที่ประเทศขาดแคลนหรือมีความต้องการ พร้อมจัดตั้งโครงการธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ (National Credit Bank) และแพลตฟอร์มการจัดการเรียนการสอนในระบบเปิด หรือ Thai MOOC เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา พัฒนาทักษะ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับคนทุกช่วงวัย



รองปลัด อว. กล่าวต่อว่า ขอให้สถาบันอุดมศึกษา เล็งเห็นความสำคัญในการผลิตหลักสูตรการเรียนการสอนนอกเหนือจากภาคปกติ โดยเฉพาะหลักสูตร Non-Degree เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกช่วงวัยได้รับการศึกษาตามความสนใจ สามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพและในชีวิตประจำวันได้

ด้าน รศ.ดร.สมหมาย กล่าวว่า มทร. เป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิชาชีพและเทคโนโลยี มุ่งส่งเสริมในด้านวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงที่เน้นการปฏิบัติ ผ่านการจัดตั้งโครงการและหลักสูตร จำนวน 868 หลักสูตร ที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถพัฒนาบุคลากรและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวง อว. และหน่วยงานพันธมิตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับทักษะบัณฑิตนักปฏิบัติ นักนวัตกร และผู้ประกอบการให้มีสมรรถนะและทักษะขั้นสูง มีบทบาทสำคัญในการสร้างขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และการบริการ สร้างอัตลักษณ์ให้ชุมชนท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ