กระทรวงพาณิชย์สั่งเข้ม สกัดสินค้าถูกจากต่างประเทศที่ไม่ได้มาตรฐาน

กระทรวงพาณิชย์สั่งเข้ม สกัดสินค้าถูกจากต่างประเทศที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมแก้ปัญหาการนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐานและราคาต่ำจากต่างประเทศ ร่วมกับนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารระดับสูงจาก 28 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาสินค้านำเข้าสู่ตลาดที่ไม่ได้มาตรฐานและราคาต่ำ ในการป้องกันและกำกับดูแลทั้งสินค้าและธุรกิจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายควบคู่กับการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEs และ E-Commerce ไทยปรับตัวได้ในโลกการค้ายุคใหม่

หลังพบการร้องเรียนและพบปัญหาสินค้านำเข้าจากต่างประเทศจำนวนมากราคาถูก แต่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทย รวมถึงผู้บริโภค

รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการเร่งด่วนและมาตรการระยะยาว รวม 63 มาตรการ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเน้น 5 มาตรการหลัก ดังนี้

  • บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด: ตรวจสอบสินค้าที่ด่านศุลกากรอย่างละเอียด เพิ่มอัตราการเปิดตู้สินค้า ตรวจสอบสินค้าออนไลน์ และป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น การเป็นนอมินี โดยให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นคนไทยต้องส่งเอกสารที่ธนาคารออกให้เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงิน พร้อมกับการขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด
  • ปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย: ปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับการค้าออนไลน์ เพิ่มสินค้าควบคุมภายใต้มาตรฐานบังคับ ซึ่งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) อยู่ระหว่างจัดทำประกาศฯ ให้ผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มต่างประเทศที่มีคุณสมบัติตามกำหนด “ต้องจดทะเบียนนิติบุคคล โดยให้มีสำนักงานในไทย” พร้อมให้มีข้อกำหนดเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมและคุ้มครองผู้บริโภคไทย นอกจากนี้ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจะเร่งเพิ่มจำนวนรายการสินค้าควบคุมภายใต้มาตรฐานบังคับ ครอบคลุมรายการสินค้าให้มากที่สุดไปด้วยอีกทางหนึ่ง
  • มาตรการทางภาษี: บังคับให้ผู้ขายสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • ช่วยเหลือ SMEs ไทย: พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมพัฒนาชุมชน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เป็นต้น เร่งพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้า และการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย เพื่อให้แข่งขันได้ในยุคการค้าโลกใหม่ โดยเฉพาะการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายการส่งออกผ่าน 9 แพลตฟอร์ม E-Commerce พันธมิตรในประเทศเป้าหมาย
  • ความร่วมมือกับประเทศคู่ค้า: ส่งเสริมการค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และสร้างความร่วมมือกับประเทศคู่ค้า เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี

รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาสินค้าไม่ได้มาตรฐานและราคาต่ำจากต่างประเทศ และได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน

แชร์ไปยัง: